กฏ กติกาการแข่งขันว่าวจุฬา-ปักเป้า
หน้าที่ของนายสนาม
1. จัดสนามแข่งขันว่าว แบ่งเขตแดนเส้นศูนย์กลางเป็นเขตแดนสำหรับว่าวจุฬาอยู่ด้านเหนือลม ส่วนว่าวปักเป้าอยู่ด้านใต้ลม เวลาเริ่มและเลิกการแข่งขันว่าวจะใช้สัญญาณเสียง
2. นายสนาม กรรมการหรือเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน จะเป็นผู้ตรวจวัดขนาดของว่าว เครื่องหมายสัญลักษณ์ที่ตัวว่าว และลงทะเบียน
3. การใช้สนามหลวงเป็นการแข่งขัน (หรือสนามอื่นๆที่สามารถจัดการแข่งขันได้) เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน ปักธงเป็นเขตแดนว่าวของแต่ละฝ่าย ฝ่ายว่าวจุฬาและว่าวปักเป้า จะมีธงปักเขตทั้งสองอยู่ห่างจากเขตตัดสินตามที่นายสนามหรือกรรมการกำหนด เมื่อว่าวทั้งสองคว้าติด ต่อสู้กันแล้วสามารถเดินขึ้นลงได้ไม่ห้าม
4. ว่าวสำหรับการแข่งขันในสนามมีขนาดดังนี้
- ว่าวจุฬามีไม้อกยาวไม่ต่ำกว่า 80 นิ้ว
- ว่าวปักเป้ามีไม้อกยาวไม่เกิน 34.5 นิ้ว
- ไม้ปีก ไม้ขากบ ว่าวจุฬา และไม้ปีกว่าวปักเป้า จะสั้นยาวเท่าใดก็ได้ไม่ห้าม
5. ว่าวของแต่ละฝ่ายที่จะนำเข้าแข่งขัน ต้องมีเครื่องหมายสัญลักษณ์ที่ตัวว่าวให้เห็นชัดเจน เมื่อขณะว่าวขึ้นลอยอยู่บนอากาศ ถ้าเครื่องหมายสัญลักษณ์ที่ตัวว่าวเห็นคล้ายคลึงกันเป็นที่สังเกตยาก นายสนามหรือกรรมการมีอำนาจที่จะให้เปลี่ยนใหม่
6. ฝ่ายว่าวจุฬาจะต้องนำตัวว่าวจุฬาพร้อมด้วยเครื่องจำปา และฝ่ายว่าวปักเป้าจะต้องนำตัวว่าวปักเป้าพร้อมป่านชัก หางว่าวและกระเบนหางเหนียง มาให้นายสนาม กรรมการหรือเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันตรวจเพื่อประทับตราที่ตัวว่าว เครื่องและที่ขั้วหางก่อน เมื่อประทับตราเสร็จแล้วจะกลับเปลี่ยนแปลงให้ผิดไปจากเดิมไม่ได้ ถ้าจะเปลี่ยนเครื่อง ซ่อมเครื่องจำปา หรือปิดกระดาษว่าวใหม่จะต้องนำมาให้นายสนาม กรรมการหรือเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันตรวจประทับตราใหม่ทุกครั้ง
7. ผู้ลงแข่งขันว่าวสายใดเล่นผิดกติกา หากได้คะแนนจะโดนปรับเป็นเสียคะแนนในเที่ยวนั้น
8. การแข่งขันแต่ละครั้งนายสนาม กรรมการหรือเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน จะกำหนดจำนวนสายว่าวจุฬาและสายว่าวปักเป้า ตามความเหมาะสมในการจัดการแข่งขันในแต่ละครั้ง
9. วันแข่งขัน นายสนามหรือกรรมการ จะประกาศให้เริ่มการแข่งขันและเลิกการแข่งขันตามเวลาที่ได้กำหนดไว้ กรรมการจะให้สัญญาณเสียงหมดเวลาแข่งขัน หากว่าวปักเป้าที่เสียแล้วยังไม่เข้าเส้นเขตแดนศูนย์ หรือว่าวจุฬาเข้าร้ายยังไม่ตกถึงพื้นดินก็ให้ถือว่าเป็นอันยกเลิก
10. เมื่อประกาศเริ่มการแข่งขันแล้ว ว่าวจุฬาคว้าว่าวปักเป้าติด จะต้องสู้กันจนถึงแพ้ชนะ ฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายจะมาร้องขอบอกยกเลิก โดยอ้างว่าเป็นว่าวที่ไม่พร้อม หรือว่าเอาขึ้นโดนยังไม่ได้ติดเครื่องหรือประการใดใดไม่ได้ทั้งสิ้น
11. นายสนามหรือกรรมการ จะชี้แจงตัดสินในข้อปัญหาใดๆ ให้หัวหน้าสายว่าวเป็นผู้มาเจรจาเท่านั้น ถ้าหัวหน้าสายว่าวไม่สามารถมาพบกับนายสนามหรือกรรมการได้ ก็ให้เป็นผู้แทนที่พูดจาสุภาพเรียบร้อยมาเจรจาแทน (นายสนามหรือกรรมการ จะไม่ชี้แจงปัญหาใดๆ ให้แก่สายว่าวที่ใช้กริยาไม่สุภาพ)
12. สายว่าวใดเห็นว่ากรรมการตัดสินอย่างคลาดเคลื่อน ต้องการจะอุทธรณ์กับนายสนามก็ได้ เมื่อนายสนามได้ตัดสินอีกครั้งหนึ่งแล้วให้ถือว่าเป็นข้อยุติ
13. นายสนามหรือกรรมการ จะต้องตัดสินทุกปัญหาการแข่งขันว่าวให้เสร็จสิ้นภายในแต่ละวัน ถ้าวันใดเกิดเป็นปัญหาที่มิได้ระบุไว้โดยตรงในกติกานี้ นายสนามจะพิจารณาตัดสินไปตามเหตุผลข้อเท็จจริง
14. นายสนาม กรรมการหรือเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันทุกคน ห้ามช่วยเหลือหรือแนะนำกับสายว่าวใดๆทั้งสิ้น เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเกิดขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของนายสนามหรือกรรมการ จะต้องดำเนินการให้เป็นที่เรียบร้อย
15. เกณฑ์การให้คะแนนในการแข่งขันว่าวจุฬาและว่าวปักเป้า
- ว่าวจุฬาชนะว่าวปักเป้า 1 หรือ 2 ตัวได้ 10 คะแนน
- ว่าวปักเป้าชนะว่าวจุฬาได้ 10 คะแนน
- ว่าวปักเป้า 2 ตัว ชนะว่าวจุฬาได้ ตัวละ 5 คะแนน
- ว่าวปักเป้า 2 ตัว ชนะว่าวจุฬา แต่ว่าวปักเป้าตัวหนึ่งถูกปรับให้ใช้แทนว่าวจุฬา ฝ่ายที่ถูกปรับไม่ได้คะแนน ส่วนสายว่าวที่ไม่ถูกปรับได้ 10 คะแนน
- ว่าวจุฬาและว่าวปักเป้า 1 ผลัดคว้าติดกันได้เพียงเที่ยวเดียว เมื่อได้เสียกันแล้วจะต้องไปต่อสู้กับสายว่าวอื่น
16. นายสนามจะเป็นผู้แต่งตั้ง รองนายสนาม คณะกรรมการผู้ตัดสิน และเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน พิจารณาตัดสิน การนำว่าวเข้าแข่งขันในสนาม
17. หัวหน้าสายว่าวทุกสาย ที่จะนำว่าวเข้าแข่งขันในสนาม จะต้องชำระค่าสมัครลงทะเบียน ไว้ที่เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน ส่วนอัตราค่าสมัครนั้นทางคณะกรรมการจัดการแข่งขัน จะเป็นผู้กำหนดตามความเหมาะสม
18. ค่าสมัครที่หัวหน้าสายว่าวได้ชำระให้แก่เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันแล้ว จะเรียกร้องคืนไม่ได้
19. การแข่งขันว่าวแต่ละครั้ง นายสนาม กรรมการ เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน จะเป็นผู้กำหนดวันและเวลาการแข่งขัน
20. สายว่าวจุฬาและสายว่าวปักเป้าทุกสาย ที่ได้ลงชื่อสมัครเข้าแข่งขันแล้ว จะต้องนำว่าวมาเข้าแข่งขันตามวันและเวลาที่กำหนดไว้
21. ในการแข่งขัน ถ้าดินฟ้าอากาศไม่อำนวย เช่น ลมไม่ดีพอ ว่าวทรงตัวไม่ได้ มีอากาศแปรปรวน ฝนตก นายสนามจะเป็นผู้สั่งงดการแข่งขันในวันนั้น หรือให้เลื่อนการแข่งขันไปวันอื่นก็ได้ (ไม่สามารถสลับแดนเล่นได้ไม่ว่าจะกรณีใดๆ)
ข้อห้ามฝ่าย ว่าวจุฬา และ ว่าวปักเป้า
22. ข้อห้ามของว่าวจุฬา
- ห้ามไม่ให้ว่าวจุฬาใช้โลหะใดๆมาติดที่สายอูด (แล่งหัว) บ่าเอว สายแล่งที่ตัวว่าวจุฬา
- ห้ามใช้วัสดุที่มีความเหนียว (พลาสเตอร์) มาแทรกอยู่ในเครื่องจำปา
- ห้ามใช้ลวด โลหะ แก้ว ทำสายซุง และไม่ให้แทรกปนในเกลียวสายป่านเครื่องจำปา
23. ว่าวจุฬาที่เข้าแข่งขัน ตัวเครื่องจำปาดอกที่ 1 ให้ใช้ไม้ไผ่ผ่าซีกเหลากลม หนึ่งดอกมีไม่เกิน 6 ซีก ซีกหนึ่งห้ามยาวเกิน 9 นิ้ว มีจำปาไม่เกิน 5 ดอก ดอกหนึ่งผูกระยะห่างกันไม่เกิน 4 เมตร
- ห้ามประดิษฐ์ทำเครื่องจำปาโดยใช้วัสดุอื่นเข้าแทรก สายซุงว่าวจุฬาห้ามสั้นกว่า 5 ช่วงไม้อก
24. ห้ามไม่ให้เอาว่าวจุฬาขึ้นหรือลงนอกเขตแดนของตนเองเป็นอันขาด เมื่อคว้าว่าวลงไปต่อสู้แล้ว จะติดว่าวปักเป้าหรือไม่ก็ตาม ขณะที่จะกลับตั้งตัวว่าวขึ้นจะต้องพยายามกลับขึ้นตามแนวเดิม ไม่ควรตะแบงนำว่าวออกนอกทางเกินสมควร ซึ่งจะเป็นเหตุให้ไปพันติดว่าวสายอื่น
25. ในวันแข่งขันสายว่าวจุฬาจะต้องนำว่าวขึ้นรอไว้ในเขตแดนของตนเอง ห้ามปล่อยว่าวออกนอกเขตแดน จนกว่านายสนามหรือกรรมการ จะประกาศให้สัญญาณเสียงเริ่มการแข่งขัน จึงจะผ่อนป่านออกไปคว้าได้ เมื่อว่าวจุฬาตัวที่คว้าต่อสู้อยู่ชนะ พาปักเป้าเข้าเส้นศูนย์ หรือแพ้ตกถึงพื้นดินแล้ว จึงจะสามารถนำว่าวตัวใหม่ขึ้นแข่งขันได้
26. เมื่อว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้าตัว 1 หรือ 2 ตัว สามารถวิ่งรอกเข้ามาต่อสู้ใกล้เส้นศูนย์ได้ ถ้าขณะนั้นลมไม่พอที่จะส่งตัวว่าว ก็ให้วิ่งรอกนำว่าวลงเป็นอันยกเลิก
27. เมื่อว่าวจุฬาคว้าว่าวปักเป้า ต่อสู้กันจนว่าวปักเป้า สาวป่านไม่เข้า ผ่อนป่านไม่ออก (ป่านตาย) ขณะวิ่งรอกพาว่าวปักเป้าเข้าเส้นศูนย์แต่ยังไม่ถึงข้ามเส้นศูนย์ ว่าวปักเป้ากลับเป็นขึ้นมาได้ หรือว่าวจุฬาเข้าร้ายวิ่งรอกมาไม่เข้าเส้นศูนย์กลับหลุดออกจากการเข้าร้ายนั้น ว่าวจุฬาจะผ่อนป่านออกไปต่อสู้กันอีกก็ได้
28. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้าแล้ว ว่าวจุฬาไปติดต้นไม้หรือสิ่งอื่นใด ว่าวจุฬามีสิทธิ์ที่จะใช้ไม้สอย หรือขึ้นไปปลดป่านนั้นให้หลุดออกได้ แต่ห้ามชักว่าว ณ ที่บริเวณนั้นเป็นอันขาด ถ้าว่าวจุฬาไปชักขณะที่กำลังปลดป่าน จะถือว่าเป็นการเล่นผิดกติกา กรรมการผู้ตัดสินอาจพิจารณาให้แพ้ หรือยกเลิกก็ได้ แล้วแต่กรณี
29. ว่าวจุฬาตกโดยอาการใดๆ จะติดว่าวปักเป้าหรือไม่ก็ตาม ห้ามไม่ให้พวกสายว่าวจุฬาลากว่าวเป็นอันขาด ถ้าลากและเกิดความเสียหายใดๆขึ้น หัวหน้าสายว่าวจุฬาสายนั้น จะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด เช่น หลังคาธรรมศาสตร์ รถเข็น รถยนต์ เสาไฟ ฯลฯ
30. เมื่อว่าวจุฬาพาว่าวปักเป้าลงในแดนว่าวจุฬา จะต้องช่วยแก้ป่านกับตัวว่าวปักเป้าออก และส่งมอบให้ฝ่ายว่าวปักเป้าไปด้วยดี ห้ามกระทำการใดๆที่เป็นความเสียหายแก่ตัวว่าวปักเป้า และสิ่งประกอบว่าวปักเป้าเป็นอันขาด
ข้อห้าม ว่าวปักเป้า
31. ห้ามไม่ให้ว่าวปักเป้าใช้สายป่านชักใหญ่กว่าที่นายสนามกำหนดไว้ ว่าวปักเป้าขนาดใหญ่ไม่ให้หางสั้นกว่า 5 ช่วงอก สายเหนียงยาวตามเส้นตรงไม่เกิน 8 เมตร สายทุ้งห้ามใช้ของมีคมใดๆ ทา ถู สายป่าน สายเหนียง สายกระเบนหาง
32. ให้ว่าวปักเป้าพยายามเอาว่าวล่อตรงแนวป่านของว่าวจุฬา เมื่อติดว่าวจุฬาแล้วห้ามเดินแยกทางเกินสมควร จนสายป่านขวางสนาม และให้สาวป่านว่าวเข้ามาต่อสู้กัน ห้ามปล่อยป่านออกไปโดยไม่มีการต่อสู้กันเลย นอกจากว่าวปักเป้าตัวนั้นเสีย
33. ในขณะที่ว่าวจุฬาคว้าลงต่ำสั้นกว่าว่าวปักเป้า ให้ว่าวปักเป้าซึ่งขึ้นลอยอยู่สูงและยาวกว่าว่าวจุฬาโฉบติดว่าวจุฬาได้ ห้ามคว้าหนีต่ำลงไปอีก ถ้าว่าวปักเป้ายังหนีอยู่ต่อไป กรรมการผู้ตัดสินอาจพิจารณาสั่งให้นำว่าวปักเป้าตัวนั้นลงเลยก็ได้
34. เมื่อว่าวจุฬาและว่าวปักเป้าคว้าติดต่อสู้กันแล้ว สายป่านหรือตัวว่าวจุฬาต่ำลงมา ห้ามฝ่ายว่าวปักเป้าจับสายป่านหรือตัวว่าวจุฬาเป็นอันขาด ในกรณีที่เข้าไปจับ จะถูกปรับให้แพ้ทันที
35. เมื่อว่าวจุฬาแพ้ตกในเขตแดนว่าวปักเป้า ห้ามทีมว่าวปักเป้าทำความเสียหายแก่ตัวว่าวจุฬา สายเครื่องจำปา และห้ามไม่ให้สายว่าวปักเป้า เอาสายป่านว่าวปักเป้าข้าม หรือลอดสายป่านว่าวจุฬา ที่พาดไปตามพื้นดินเป็นอันขาด จนกว่ากรรมการผู้ตัดสิน หรือทีมว่าวจุฬาสายที่ตกนั้น จะมาตรวจลักษณะการติดของว่าวสายนั้นก่อน
36. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้าแล้ว ต้องทำให้ว่าวปักเป้าเสียก่อน เช่น เสียหางตัวเอง เสียหางหน้าซุง เสียหางที่จำปา หางขาด กระเบนหางหรือหางขมวดสั้น หางเข้าเหนียงตัวเอง ซุงติดหัวขาด ว่าวแฉลบ เหนียงขาด หรือเหนียงรูด ปีกหัก อกหัก กระดาษขาดจนตัวว่าวเอียง เหนียงเข้าเครื่อง เหนียงหลวมตัว เสียหางรายทาง หรือมีอาการเปลี่ยนแปลงไปจากสภาพเดิม ถ้าว่าวจุฬาสามารถพาว่าวปักเป้าเข้าเส้นศูนย์ไปได้ ถือว่าชนะว่าวปักเป้า ถ้าอาการที่กล่าวมาในข้างต้นนี้ไปติดกลางป่านว่าวจุฬาให้ยกเลิก
37. ว่าวจุฬาขวาติดว่าวปักเป้าแล้ว ว่าวปักเป้าทำให้ว่าวจุฬากระดาษขาด เป็นแผลยาวตั้งแต่ 4 นิ้วขึ้นไป หรือขาดตั้งแต่ 3 แผล เมื่อวัดรอยขาดทั้ง 3 แผนรวมกัน ยาวตั้งแต่ 6 นิ้ว ขึ้นไป ขากบเดาะ หัก ประกบเข้าเหนียง เข้าซุง ซุงสวมหัว ซุงขาด เข็มหัก หรืออย่างอื่นที่ทำให้มีอาการเปลี่ยนแปลงไปจากสภาพเดิม ว่าวจุฬาพาว่าวปักเป้าเข้าเส้นศูนย์ไปได้ ถือว่าชนะว่าวปักเป้า
38. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้า 2 ตัว ว่าวจุฬาจะต้องทำให้ว่าวปักเป้าตัวหนึ่งเสียหรือเสียทั้ง 2 ตัว หากว่าวจุฬาเข้าร้าย พาว่าวปักเป้าเข้าเส้นศูนย์ได้ ถือว่าชนะว่าวปักเป้าทั้ง 2 ตัว แต่ถ้ายังไม่ทันข้ามเส้นศูนย์ ว่าวปักเป้าตัวที่เสียกลับเป็นขึ้นมา หรือว่าวจุฬาที่เข้าร้ายกลับหลุดจากการเข้าร้าย ถ้าว่าวจุฬาวิ่งรอกเข้าเส้นศูนย์ไปให้ถือว่ายกเลิก เพราะยังไม่ได้เสียอะไร แต่ถ้ายังไม่เข้าเส้นศูนย์ฝ่ายว่าวจุฬาจะผ่อนป่านออกไปทำการต่อสู้ จนมีการได้เสียกันก็สามารถทำได้
39. ว่าวจุฬาคว้าว่าวปักเป้าติด ต่อสู้กันแล้ว ว่าวปักเป้าสายป่านสั้นเข้ามา จนตัวว่าวปักเป้าสั้นกว่าตัวว่าวจุฬา และสายป่านว่าวปักเป้าตาย ไม่สามารถจะหย่อนสายป่านให้ตัวว่าวปักเป้ายาวกว่าตัวว่าวจุฬาได้ ถือว่าเสีย แต่สายป่านว่าวปักเป้าต้องติดจำปา ว่าวจุฬาพาว่าวปักเป้า ข้ามเข้าเส้นศูนย์ไปได้ ถือว่าชนะว่าวปักเป้า แต่การจะพาว่าวปักเป้าเข้าเส้นศูนย์ว่าวจุฬานั้น จะต้องทำให้เห็นว่าว่าวปักเป้าสั้นกว่าว่าวจุฬา และหย่อนป่านไม่ออกจริงๆ แต่ระหว่างว่าวจุฬาวิ่งรอกเข้ามาแต่ยังไม่ข้ามเส้นศูนย์ ว่าวปักเป้ กลับสามารถหย่อนป่านออกไป จนตัวว่าวปักเป้ายาวกว่าว่าวจุฬาได้ ถ้าว่าวจุฬาวิ่งรอกพาเข้าเส้นศูนย์ไปได้ เมื่อลงมาวัดดูปรากฏว่า ตัวว่าวปักเป้ายาวกว่าตัวว่าวจุฬา โดยว่าวปักเป้ายังไม่เสียอะไร ให้ยกเลิก แต่ถ้าฝ่ายว่าวจุฬา รู้ตัวก่อนเข้าเส้นศูนย์ ว่าว่าวปักเป้ายาวกว่าว่าวจุฬา แล้วจะผ่อนป่านออกไปทำการต่อสู้กันใหม่ จนมีการได้เสียอีกครั้งก็ได้ (ต้องติดจำปาเท่านั้นติดตั้งผ่านไม่ได้)
40. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้าแล้ว ว่าวจุฬาหรือว่าวปักเป้าเข้าร้ายก็ตาม เมื่อว่าวจุฬาวิ่งรอกพาว่าวปักเป้า ข้ามเส้นศูนย์ ตัวว่าวจุฬาเข้าเส้นศูนย์ตกพื้นดิน แต่ตัวว่าวปักเป้าลอยอยู่บนอากาศ ในเขตแดนของว่าวปักเป้า กรณีเช่นนี้ ฝ่ายว่าวจุฬาสามารถลากพาตัวว่าวปักเป้า ข้ามเส้นศูนย์เข้ามาได้ ถือว่าชนะว่าวปักเป้า แต่ถ้าไม่สามารถพาว่าวปักเป้าข้ามเส้นศูนย์เขตแดนจุฬาได้ ให้ยกเลิก ห้ามฝ่ายว่าวปักเป้าเข้าไปจับสายป่าน ที่อยู่ในเขตแดนว่าวปักเป้า ถ้าจับถือว่าเป็นฝ่ายแพ้ว่าวจุฬา
41. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้าต่อสู้กัน สายป่านว่าวจุฬาเข้าไปติดต้นไม้ ตัวว่าวจุฬาห้อยอยู่ แล้วภายหลังมีลมมาปะทะสามารถทรงตัวขึ้นได้เอง โดยตัวว่าวจุฬาไม่ขาด หรือชำรุด และพาว่าวปักเป้าข้ามเข้าเส้นศูนย์ได้ โดยว่าวจุฬาหรือว่าวปักเป้าเข้าร้ายอยู่ ให้ถือว่าว่าวจุฬาชนะว่าวปักเป้า แต่ถ้าหากว่าวจุฬาหรือตัวว่าวปักเป้าหรือทั้ง 2 ตัวกระดาษขาดชำรุดให้ถือว่าเว้าจุฬาแพ้ว่าวปักเป้า
42. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้าต่อสู้กัน จนว่าวจุฬาเข้าร้าย หรือไม่ก็ตามต่ำลงมา จนปีกหรือขากบกระทบต้นไม้ แล้วกลับตัวขึ้นได้ ยังไม่ถือว่าว่าวจุฬาตก แต่ถ้าหัวว่าวจุฬากระทบพื้นดินให้ถือว่าว่าวจุฬาแพ้ว่าวปักเป้า
43. เมื่อว่าวปักเป้าติดกับว่าวจุฬาแล้ว ได้ต่อสู้กันและว่าวปักเป้าพยายามทำให้ว่าวจุฬา เข้าเหนียง ประกบไม้อก ไม้ปีก ไม้ขากบเดาะ หัก กระดาษขาด สายซุงขาด สายอูดขาด (แล่งหัว) สายแล่งขาด (แล่งขากบ) หรืออย่างอื่น ที่ทำให้จุฬาตกในเขตศูนย์ว่าวปักเป้า เช่นนี้ถือว่าว่าวปักเป้าชนะว่าวจุฬา
44. ว่าวจุฬาขวาติดว่าวปักเป้าแล้ว ว่าวจุฬาเข้าร้ายตกลงในเขตแดนว่าวปักเป้า ในขณะว่าวจุฬาตกลงมา สายป่านว่าวทั้งสองหลุดจากกัน ให้ถือว่ายกเลิก เว้นแต่ว่าว่าวจุฬาฉุดลากสายป่านว่าวปักเป้าขาดจากกัน ให้ถือว่าว่าวปักเป้าชนะว่าวจุฬา
45. ว่าวจุฬาคว้าว่าวปักเป้าลงต่ำ ไม่ติดว่าวปักเป้า แต่บังเอิญสายป่านว่าวจุฬาติดต้นไม้ หรือสิ่งอื่นใดก็ตาม ว่าวปักเป้าสายที่ถูกว่าวจุฬาไล่คว้านั้น มีสิทธิ์ที่จะโฉบไล่คว้าว่าวจุฬาตัวนั้นได้ ถ้าว่าวจุฬานั้นตกในเขตเส้นศูนย์ว่าวปักเป้า และสายป่านติดกันเป็นลวดให้ถือว่าว่าวปักเป้าชนะว่าวจุฬา
46. ว่าวจุฬาไล่คว้าว่าวปักเป้า แต่ยังไม่ติดกัน สายป่านว่าวจุฬาติดกิ่งไม้ หรือสิ่งใดๆ ตัวว่าวจุฬายังลอยอยู่ในอากาศ ว่าวจุฬาอีกตัวหนึ่งติดกับว่าวปักเป้า เป็นคู่ต่อสู้กันอยู่แล้ว ไปติดกับว่าวจุฬาที่ป่านติดอยู่กับต้นไม้นั้น ให้ยกเลิก
47. ว่าวจุฬา 2 ตัวไล่คว้า ติดว่าวปักเป้าตัวเดียวพร้อมกัน และสายป่านว่าวปักเป้า ที่ติดสายป่านว่าวจุฬาทั้ง 2 ตัวนั้น เข้าไปติดอยู่ในเครื่องของว่าวจุฬาตัวหนึ่ง หรือทั้ง 2 ตัว ให้ยกเลิก แต่ถ้าสายป่านว่าวปักเป้าติดอยู่ที่โคนสายป่านว่าวจุฬาทั้ง 2 ตัว โดยไม่ได้เข้าไปติดที่เครื่องของว่าวจุฬา ให้ว่าวจุฬาพยายามแก้ออกให้หลุดเสียตัวหนึ่ง ว่าวที่ติดกันอยู่ก็ให้ต่อสู้กันได้ต่อไป แต่ถ้าแก้ไม่หลุดให้ยกเลิก
48. ว่าวจุฬาคว้าว่าวปักเป้าติด ต่อสู้กันจนทำให้ว่าวปักเป้าเสีย หรือว่าวจุฬาเข้าร้าย ขณะวิ่งรอกเข้าศูนย์ ว่าวปักเป้าเหนี่ยวรั้ง จนสายป่านว่าวจุฬาต่ำลง (ติดเส้นศูนย์) ว่าวจุฬาไม่สามารถพาว่าวของตัวเองเข้าเขตเส้นศูนย์ไปได้ ตัวว่าวจุฬาตลบลอดใต้เส้นศูนย์ เข้าไปติดอยู่ในเขตเส้นศูนย์ของตน เมื่อเวลาแก้ปานออกดูปรากฏว่า เว้าจุฬา ตลกใต้เส้นศูนย์เข้าไป ให้ถือว่าว่าวจุฬาแพ้ว่าวปักเป้า แต่ว่าวปักเป้าเข้าไปอยู่ในเขตเส้นศูนย์ของว่าวจุฬาให้ยกเลิก และกรณีที่ตัวว่าวจุฬาข้าม เข้าไปในเขตเส้นศูนย์ของตัวเองได้ แต่ตัวว่าวปักเป้า ตกอยู่ในเขตเส้นศูนย์ของว่าวปักเป้าเอง ให้ยกเลิก
49. ว่าวจุฬาไล่คว้าว่าวปักเป้าติด ว่าวจุฬาตก จะกระณีใดๆก็ตาม ถ้าปรากฏว่าสายป่านของว่าวปักเป้าเข้าไปติดอยู่ในเครื่องของว่าวจุฬา หรือสายป่านของว่าวจุฬาเป็นลวด ก็ให้ถือว่าว่าวปักเป้าชนะว่าวจุฬา แต่ถ้าสายป่านว่าวปักเป้าไม่เข้าเครื่องและไม่เป็นลวด เพียงแค่ทับกันก็ให้ยกเลิก
ลักษณะจังหวะการคว้าของว่าวจุฬา
ลักษณะจังหวะการคว้าของว่าวจุฬา
50. ว่าวจุฬาคว้าลงมาจะเป็นการอัด (กดลงไป) หรือโขยกก็ตาม เมื่อคว้าลงมาแล้วเริ่มหันหัวเข้ากับขึ้นไป ตรงหรือตะแบงไปข้างซ้ายไปข้างขวาก็ตาม ระยะนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่ 1 ในจังหวะที่ 1 นี้ ว่าวปักเป้าที่เข้าไปติดกับว่าวจุฬา จะเป็นกี่ตัวก็ตาม เรียกว่าติดในจังหวะเดียวกัน เมื่อมีว่าวปักเป้าตัวใดหลุดออกไปแล้ว แต่กลับมีว่าวปักเป้าตัวอื่นเข้ามาติดใหม่อีก ให้ถือว่าตัวที่เข้ามาติดใหม่เป็นจังหวะที่ 2 ว่าวปักเป้าที่มาติดในจังหวะที่ 2 นี้จะต้องถูกใช้แทน เมื่อมีการได้เสียระหว่างว่าวจุฬากับว่าวปักเป้า ที่เป็นคู่ต่อสู้กันอยู่แล้ว แต่ถ้าว่าวปักเป้าที่มาติดในจังหวะที่ 2 หลุดออกไปได้ ก่อนที่จะมีการได้เสียกัน ว่าวจุฬาและว่าวปักเป้าที่เป็นคู่ต่อสู้กัน ก็สามารถต่อสู้กันต่อไปได้
ลักษณะของว่าวที่ขาดลอยที่มีได้เสีย และให้ยกเลิก
51. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้า แล้วว่าวจุฬาขาดลอย สายป่านว่าวจุฬาไปติดต้นไม้หรือสิ่งอื่นใด ผู้จับสายป่านได้ในเขตเส้นศูนย์ของว่าวปักเป้า โดยที่โคนป่านของว่าวจุฬาที่ขาดลอยนั้น ออกไปนอกเขตเส้นศูนย์ สายป่านว่าวปักเป้ายังติดอยู่กับว่าวจุฬา ในขณะที่ว่าวขาดลอย พอดีกับว่าวปักเป้าที่หลุดจากว่าวจุฬา ว่าวปักเป้าตัวนั้นมีสิทธิ์ที่จะโฉบให้มาติดกับว่าวจุฬาได้ ถ้าโฉบติดก็ให้ถือว่าว่าวปักเป้าชนะว่าวจุฬา แต่ถ้าโฉบไม่ติดก็ให้ยกเลิก และเมื่อว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้า ทำให้ว่าวปักเป้าเสีย แล้ววิ่งรอกเข้ามา แต่ว่าวปักเป้าที่เสียอยู่นั้นขาดลอยไป หากว่าวจุฬาคว้าตามเอามาได้ โดยที่ว่าวปักเป้านั้นยังเสียอยู่ และพาข้ามเขตเส้นศูนย์ได้ ก็ให้ถือว่าว่าวจุฬาชนะว่าวปักเป้า แต่ถ้าคว้าตามเอามาไม่ได้ ให้ยกเลิก
- แต่ถ้ากรณีที่ว่าวจุฬาพาว่าวปักเป้าข้ามเขตเส้นศูนย์ได้ ว่าวปักเป้าหลุดหรือป่านขาดในเขตแดนของว่าวจุฬา ฝ่ายว่าวจุฬาสามารถจับสายป่านว่าวปักเป้า ดึงเข้ามาในเขตแดนตัวเองได้
52. เมื่อว่าวจุฬาขาดลอยติดกับว่าวปักเป้าไป แม้จะไม่ติดกับว่าวจุฬาตัวอื่น และว่าวจุฬาตัวหลัง เอาว่าวขาดลอยยกกลับมาในเขตเส้นศูนย์ของว่าวจุฬา ก็ให้ถือว่าว่าวจุฬาตัวที่ขาดลอยติด ไปกับว่าวปักเป้าตัวหนึ่ง ส่วนอีกตัวหนึ่งติดอยู่ที่สายเครื่องของว่าวจุฬา และไปตกอยู่ในเขตเส้นศูนย์ของว่าวจุฬา ในกรณีเช่นนี้ให้ถือว่าว่าวปักเป้าตัวที่ติดอยู่ที่เครื่องของว่าวจุฬาตกอยู่ในเขตเส้นศูนย์ของว่าวจุฬา ให้ยกเลิก
53. กรณีว่าวจุฬาและว่าวปักเป้าต่อสู้ฟ้าติดกันแล้ว เกิดหางว่าวปักเป้าขาดลอยไป เหลือแต่ตัวที่ติดอยู่ ว่าวจุฬาลากข้ามเส้นศูนย์ตัวเองไปได้ ให้ถือว่าว่าวจุฬาชนะ หรือขณะต่อสู้คว้าติด แต่ตัวว่าวปักเป้าขาดลอยเหลือแต่หาง ติดอยู่กับว่าวจุฬา ก็ถือว่าว่าวจุฬาชนะเช่นกัน
- ในกรณีที่ตัวว่าปักเป้าขาดลอยไปพร้อมหางว่าวจุฬาได้แค่สายป่านว่าวปักเป้าไป ให้ยกเลิก
54. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้ากำลังต่อสู้กันอยู่ แต่ว่าปักเป้าขาดลอยไป โดยสายป่านของว่าวปักเป้า ยังติดกับสายป่านของว่าวจุฬา กรณีนี้ต้องให้ว่าวจุฬาลงมาแกะป่านของว่าวปักเป้าออกก่อน แล้วจึงนำว่าวขึ้นไปใหม่ได้
55. ในระหว่างที่ว่าวจุฬาวิ่งรอก พาว่าวปักเป้าที่เสียแล้วเข้าเส้นศูนย์ จะต้องระวังว่าวของตนเองอ ย่าให้ไปพาดกับป่านว่าวจุฬาสายอื่นได้ หากไปติดกับว่าวจุฬาสายอื่น ทำให้ว่าวปักเป้าที่เสีย กลับหลุดหรือขาดลอยไป ให้ถือว่ายกเลิก จะให้ว่าวจุฬาอีกตัวใช้แทนไม่ได้
ลักษณะของว่าวยกเลิก
56. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้า ต่อสู้กันนานเกินกว่า 5 นาที แต่ยังไม่มีการได้เสียกัน ให้ยกเลิก โดยกรรมการผู้ตัดสินจะยกธง เครื่องหมายว่าวจุฬาขึ้น (อยู่ที่ดุลพินิจของกรรมการผู้ตัดสิน)
57. ว่าวจุฬาขวาติดว่าวปักเป้าพร้อมกันเกินกว่า 2 ตัวขึ้นไป แล้วไม่สามารถแก้หลุดได้ ให้ยกเลิก
58. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้าต่อสู้กัน แต่ว่าวปักเป้าไม่เข้ามาประกบ หรือทำการต่อสู้กับว่าวจุฬาสักครั้ง เมื่อว่าวตกลงมา ปรากฏว่ากระดาษว่าวจุฬาขาด โดยที่ไม่มีการต่อสู้ตามกติกา ให้ยกเลิก
59. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้าเข้าซุง โดยว่าวปักเป้ายังไม่เสียอะไร แล้วว่าวปักเป้าหย่อนสายป่านเรื่อยไป ในกรณีนี้เมื่อติดกันแล้วถือว่าเป็นคู่ต่อสู้กันอยู่ ถ้าว่าวจุฬาตกถึงพื้นในเขตแดนว่าวปักเป้า ถือว่าว่าวปักเป้าเป็นฝ่ายชนะ (ลักษณะหนูไต่ราว)
60. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้า ต่อสู้กันอยู่ 2 คู่ ต่างฝ่ายยังไม่เข้าร้ายและเซไปติดพันกัน กรรมการผู้ตัดสิน ให้ยกเลิกทันที
ลักษณะของว่าวที่ต้องถูกปรับใช้แทน
61. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้า 1 หรือ 2 ตัวก็ตาม ต่อสู้จนว่าวปักเป้าเสีย วิ่งรอกเข้ามาติดกับว่าวปักเป้าอีกตัวหนึ่ง ทำให้ว่าวจุฬาตก ในเขตเส้นศูนย์ของว่าวปักเป้า ว่าวปักเป้าตัวที่มาติดที่หลังนี้ต้องเป็นผู้ใช้แทนว่าวจุฬา
62. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้า เป็นคู่ต่อสู้กันอยู่ก่อนแล้ว มีว่าวจุฬาตัวเปล่าลงมาติดด้วยทำให้ว่าวปักเป้าเสีย ว่าวจุฬาพา ข้ามเขตเส้นศูนย์ได้ให้ถือว่า ชนะว่าวปักเป้า แต่ให้ว่าวจุฬาตัวที่มาติดทีหลังใช้แทนว่าวปักเป้า ถ้าหากว่าวจุฬาตกในเขตเส้นศูนย์ของว่าวปักเป้า ให้ว่าวปักเป้าชนะว่าวจุฬา แต่ให้ว่าวจุฬาตัวที่ติดทีหลังใช้แทนว่าวจุฬาเช่นกัน
63. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้าแล้วเข้าร้าย มีอาการซวนเซอยู่ในอากาศ โดยมีอาการว่าจะตก ในทันใดนั้นมีว่าวจุฬาตัวเปล่า คว้าลงมาติดหรือคว้าลงมาพาดสายป่านว่าวปักเป้า ทำให้ว่าวปักเป้าเสียโอกาส ในการต่อสู้กับว่าวจุฬาตัวแรก
ว่าวจุฬาพาว่าวปักเป้าข้ามเขตเส้นศูนย์ไปได้ ให้ถือว่าว่าวจุฬาชนะว่าวปักเป้า แต่ให้ว่าวจุฬาตัวที่มาติดที่หลังใช้แทนว่าวปักเป้าที่เสีย แต่ถ้าว่าวจุฬาตัวนั้นตก ก็ให้แพ้ว่าวปักเป้า โดยว่าวจุฬาที่มาติดที่หลังใช้แทนว่าวจุฬาตัวที่ตกเช่นกัน
64. ว่าวจุฬาฟ้าติดว่าวปักเป้า ต่อสู้กันแล้ว มีว่าวปักเป้าตัวเปล่าเข้ามาติดเป็นตัวที่ 2 เมื่อมีการได้เสีย ให้ว่าวปักเป้าตัวที่มาติดทีหลังใช้แทนฝ่ายที่แพ้ ไม่ว่าจะเป็นว่าวจุฬาหรือว่าวปักเป้าก็ตาม ถ้าว่าวจุฬาพาข้ามเขตเส้นศูนย์ไปได้ทั้ง 2 ตัว ให้ว่าวปักเป้าที่มาติดที่หลัง ใช้แทนว่าวปักเป้าตัวแรก แต่ถ้าว่าวปักเป้าตัวที่มาติดที่หลังขาดลอยไปก่อน ที่จะมีการเข้าร้าย ว่าวจุฬาและว่าวปักเป้าที่เป็นผู้ต่อสู้กัน ก็สามารถต่อสู้กันต่อไปได้
65. ว่าวตัวใดที่ถูกใช้แทน จะไม่ได้คะแนนการแข่งขันสำหรับเที่ยวนั้น
ลักษณะว่าวจุฬาเข้าศูนย์เมื่อตัวว่าวยังลอยอยู่ในอากาศ
66. เมื่อว่าวจุฬาวิ่งรอกมาโดยยังไม่มีการได้เสียหรือเข้าร้ายให้ถือจำปาดอกที่ 3 ของว่าวจุฬาเป็นเกณฑ์ถ้าจำปาดอกต้นผ่านถึงเส้นศูนย์เรียกกว่าเข้าเส้นศูนย์แล้วถ้าไม่มีการได้เสียกัน ให้ยกเลิก(จำปาดอกที่ 3 คือ จำปาดอกที่ผูกที่กับสายป่านว่าวจุฬา)
ลักษณะที่ถือว่าเป็นลวดหรือติดกัน
67. ลักษณะการเป็นลวดคือ
- สายป่านว่าวปักเป้าจะต้องพันสายป่านว่าวจุฬาบรรจบกัน 1 รอบขึ้นไป
- สายป่านว่าวปักเป้าเข้าไปติดอยู่ในจำปาของว่าวจุฬา
- สายป่านของว่าวปักเป้า พาดตัวว่าวจุฬาจนกระดาษของว่าวจุฬาฉีกขาด และสายป่านของว่าวปักเป้าเข้าไปติดพันตัวว่าวจุฬา จะเป็นลวดหรือไม่ก็ตามแต่เมื่อตกลงมาแล้ว สายป่านของว่าวปักเป้าอยู่ในซุงของว่าวจุฬา ให้ถือว่าว่าวจุฬาแพ้ว่าวปักเป้า
- ว่าวปักเป้าปะกบเข้าไปเสียบอยู่ที่ตัวว่าวจุฬา หรือข้างหลังว่าวจุฬา
- หางว่าวปักเป้าพันหัวว่าวจุฬา
- ซุงว่าวปักเป้าสวมหัวว่าวจุฬา
- ตัวว่าวปักเป้ารอดซุงว่าวจุฬา
- ตัวว่าวปักเป้าเสียบหัวว่าวจุฬา
68. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้า ระหว่างต่อสู้กันอยู่ จะเข้าร้ายหรือไม่เข้าร้ายก็ตาม ถ้าปรากฏว่าว่าวจุฬาตกถึงพื้นดิน ต้นไม้ หลังคา แล้วว่าวจุฬากับขึ้นไปได้ ในลักษณะเช่นนี้ จะถือว่าว่าวจุฬาแพ้ว่าวปักเป้า แต่ถ้าปีก ขากบ ว่าวจุฬากระทบพื้นดิน ต้นไม้ หลังคา แล้วกลับขึ้นไปได้ ไม่ถือว่าว่าวจุฬาแพ้ว่าวปักเป้า และสามารถต่อสู้กันต่อไปได้
69. แนวเขตของว่าวจุฬาและว่าวปักเป้า ให้ถือดังต่อไปนี้
- จากเส้นแบ่งเขตเส้นศูนย์กลางสนามขึ้นไปทางทิศใต้ (พระบรมมหาราชวัง) ตามแนวต้นมะขามด้านในนี้ ถือว่าเป็นเขตของว่าวจุฬา
- ว่าวจุฬาตก หรือติดอยู่ที่แนวมะขามด้านใน เรียกว่าตกอยู่ในเขตของว่าวจุฬา
- แนวต้นมะขามด้านนอก ให้ถือว่าเป็นเขตแดนของว่าวปักเป้า ถ้าว่าวจุฬาตก หรือติดอยู่บนต้นมะขามแนวด้านนอก ไม่ว่าจะอยู่ในลักษณะใด ให้ถือว่าแพ้ว่าวปักเป้า
- ว่าวจุฬาตก หรือติดอยู่บนต้นมะขามแนวด้านใน และว่าวปักเป้าตก หรือติดอยู่ที่ต้นมะขามแนวด้านนอก ให้ยกเลิก
- ว่าวจุฬาตก หรือติดอยู่ที่ต้นมะขามแนวด้านนอก ว่าวปักเป้าตก หรือติดอยู่ที่ต้นมะขามแนวด้านใน ให้ยกเลิก
- ว่าวจุฬาห้อยอยู่ที่ต้นมะขามแนวด้านนอก ว่าวปักเป้าตก หรือติดอยู่ที่ต้นมะขามแนวด้านนอก ให้ถือว่าว่าวจุฬาแพ้ว่าวปักเป้า
- ตัวว่าวจุฬาห้อยอยู่ที่ต้นมะขามแนวด้านนอก แต่ไม่ถึงพื้นดิน ตัวว่าวปักเป้าก็ห้อยอยู่ที่ต้นมะขามแนวด้านนอก แต่ไม่ถึงพื้นดินเช่นกัน ให้ถือว่าว่าวจุฬาแพ้ว่าวปักเป้า
70. ว่าวจุฬาคว้าติดว่าวปักเป้า แต่ป่านว่าวปักเป้าเข้าไปติด หูช้องป่านว่าวจุฬา (หูช้อง คือ ขั้วซุงหรือขั้วจำปา) ถือว่าไม่ติดจำปา ยังอยู่กลางป่าน ให้กรรมการผู้ตัดสินยกเลิก
71. เสาเขตแดนกลางสนาม ระหว่างว่าวจุฬาและว่าวปักเป้า เมื่อว่าวจุฬามาปะทะเสาเขตเส้นศูนย์กลางสนามล้ม หรือเอียง เท่ากับว่าวจุฬาแพ้
72. กรณีที่ว่าวปักเป้าเสียทุกกรณี ป่านว่าวปักเป้า ติดสายเครื่องจำปาตั้งแต่ขั้วซุงไป ถึงจำปาดอกที่ 3 ถือว่าว่าวจุฬาเป็นฝ่ายชนะ ถ้าติดขั้วจำปาดอกที่ 3 ที่ผูกกับ สายป่านว่าวจุฬา ให้กรรมการผู้ตัดสินยกเลิกเช่นกัน (จำปาดอกที่ 1 คือ จําปาที่ผูกติดกับซุงตัวว่าวจุฬา)
73. การกระทำของผู้เข้าร่วมแข่งขัน จะมีกรรมการผู้ตัดสินประจำหลัก เป็นผู้รับผิดชอบดูแล แต่หากมีปัญหา การวินิจฉัยหรือตีความใดเกี่ยวกับกติกา ให้นายสนาม รองนายสนาม กรรมการฝ่ายเทคนิค ประชุมพิจารณาร่วมกันนายสนามเป็นผู้ชี้ขาดให้ถือเป็นข้อยุติ